

หลังสถานการณ์ไวรัสระบาดภายในประเทศเริ่มคลี่คลาย ไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวต่าชาติเท่านั้นที่รอคอย คนไทยเองก็เช่นกันที่รู้สึกสบายใจที่จะเริ่มวางแผนออกทริปกันอีกครั้ง ครั้งนี้เราจะไปที่ๆ เราเคยจองไว้ก่อนหน้าแต่ก็ต้องยกเลิกไปเกือบๆ สองปีแล้วนั่นเอง
สำหรับคนที่หลงใหลในบรรยากาศของทะเลต้องเคยได้ยินชื่อหาดไร่เลย์มาบ้างแล้วอย่างแน่นอน ซึ่งถ้าค้นหาจากภาพแล้วหลายคนมักจะเข้าใจผิดว่าที่นี่เป็นเกาะในจังหวัดกระบี่ แต่แท้จริงแล้วเป็นเพียงส่วนที่ยื่นออกมาจากชายฝั่งโดยมีภูเขาโอบล้อมทั้งสองด้าน ดังนั้นการเดินทางมาที่นี่จึงต้องพึ่งพาเรือโดยสารเท่านั้น







ครั้งนี้เราได้มาพักที่ ไร่เลย์บีช รีสอร์ท แอนด์สปา ซึ่งมีพื้นที่ติดด้านหน้าของหาดไร่เลย์ และสามารถเดินทะลุไปฝั่งอ่าวพระนางได้ด้วยซึ่งสะดวกมากๆ


เราสามารถซื้อแพ็คเกจเที่ยวเกาะรอบๆ ได้ที่โรงแรม หรือจะเดินไปที่ถนนคนเดินซึ่งห่างออกไปเพียง 100 เมตรเท่านั้น





สำหรับอาหารเย็น จะเลือกรับประทานที่ห้องอาหารของโรงแรม หรือจะไปหาที่ walking street ก็ได้ เราจึงจัดไปทั้งสองที่เลยสำหรับมื้อเย็น และมื้อเย็นแก่ๆ อีกรอบ (ฮา)



ตอนเช้าเราเดินอ้อมด้านหลังโรงแรมไปยังอ่าวพระนาง โดยระหว่างทางมีหินงอกหินย้อยให้เห็นมากมาย รวมถึงพวกลิงที่เริ่มตื่นนอนออกมาเดินสำรวจกันบ้างแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่โรงแรมได้เตือนให้ระวังของใช้ส่วนตัวที่อาจถูกลิงขโมยไปได้





สำหรับคนที่รักการปีนหน้าผา ที่นี่เปรียบเสมือนสวรรค์เลยทีเดียว โดยมีหน้าผาที่คุณสามารถปีนได้หลายจุด ซึ่งติดต่อได้ที่จนท.โรงแรม และเคาน์เตอร์บริการนักท่องเที่ยวที่ถนนคนเดินเช่นกัน
ศาลที่ตั้งอยู่ที่ถ้ำพระนางนั้นมีเรื่องเล่าอยู่สองแบบหลักๆ คือ เรื่องแรก มีคณะเชื้อพระวงศ์จากอินเดียได้เดินทางมายังบริเวณนี้และเรือโดยสารได้ล่มลง วิญญาณของพระธิดาจึงได้มาสิงสถิตอยู่ที่ถ้ำแห่งนี้ และชาวเรือจะมาขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลก่อนออกเดินทางทุกครั้ง อีกเรื่องคือมีผู้เฒ่าได้มาขอลูกกับพญานาค และสัญญาว่าหากได้ลูกสาวจะยกให้แต่งงานกับลูกชายของพญานาค แต่สุดท้ายได้ผิดสัญญา พื้นที่บริเวณแห่งนี้จึงถูกสาปให้เป็นหินไปทั้งหมด


เมื่อถึงเวลาเดินทางกลับ เจ้าหน้าที่ได้ให้เราขึ้นรถแทร็กเตอร์และขับลงไปในทะเล (เดี๋ยวๆ)

จริงๆ แค่มาส่งต่อให้เรือที่เข้ามาเทียบที่หน้าหาดไม่ได้แหละ (โล่งอก)

เมื่อเดินทางมาถึงท่าเรืออีกฝั่งแล้ว ถ้าหากคุณจอดรถไว้ที่ออฟฟิศของโรงแรมจะมีรถไปส่งคุณที่นั่น
สำหรับคนที่มีเวลาท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่มากกว่า 1 คืน ท่านไม่ควรพลาดที่จะมาพักที่หาดไร่เลย์สักครั้ง ที่นี่คุณจะสัมผัสได้ถึงความเงียบสงบไม่ต่างจากอยู่บนเกาะที่ตั้งอยู่นอกชายฝั่ง เพราะชายหาดทั้งสองด้านถูกโอบล้อมเอาไว้ด้วยภูเขา ทำให้ผู้คนที่นี่คือคนที่ตั้งใจค้างคืนเท่านั้น จึงไม่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาวุ่นวาย คุณสามารถใช้เวลาพักผ่อนของคุณได้อย่างคุ้มค่าด้วยการเดินทางออกมาจากตัวเมืองเพียงแค่
จากกรุงเทพฯ – กระบี่ |
เครื่องบิน : สนามบินดอนเมือง / สุวรรณภูมิ |
รถไฟ : สถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) |
|
รถบัส : สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ ถนนบรมราชชนนี (สายใต้ใหม่) |
|
จากกระบี่ – ไร่เลย์ |
ท่าเรือเจ้าฟ้า : ใช้เวลา 45 นาที (ไม่เหมาะกับฤดูฝน) / ประมาณ 100 บาท |
ท่าเรืออ่าวนาง : ใช้เวลา 15 นาที / ประมาณ 100 บาท |
|
ท่าเรืออ่าวน้ำเมา : ใช้เวลา 10 นาที / ประมาณ 100 บาท |