
รีวิวเที่ยวแบบแยกวันแต่ไม่เรียงวัน เลือกไปได้ตามสะดวกกับแผนการเดินทางของคุณ ฟุกุโอกะที่ๆ หลายๆ คนเลือกมาเพราะราคาตั๋วที่ไม่แพนัก แต่กลับหลงรักและอยากกลับมาซ้ำอยู่เสมอๆ เหมือนโดนป้ายยาให้ซะแล้ว
วันแรกเป็นวันที่มาจากสนามบินฟุกุโอกะ แม้ว่าไฟลท์ที่มาถึงตอนเช้าจะมีเวลาเที่ยวได้ทั้งวัน แต่เอาเข้าจริงแล้วหลายคนอาจเพลียจากการเดินทาง ดังนั้นการเที่ยวในเมืองที่ไม่ไกลนักอาจเป็นคำตอบ




Day 1
เริ่มต้นด้วยการนั่งรถไฟไปลงที่สถานีดาไซฟุ ความคึกคักของย่านการค้าระหว่างทางที่เดินเข้าไปยังศาลเจ้า ยิ่งสายๆ คนยิ่งมากขึ้นไปเรื่อยๆ
ช่วงปลายตุลาคม จนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน สามารถชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี และมุมถ่ายภาพสวยๆ ได้ที่นี่




เดินตามกระแสมวลชนแบบไม่ต้องดูแมพ เพราะยังไงก็ไปสุดอยู่ตรงศาลเจ้าเป้าหมายเดียวกันแน่นอน
บริเวณรอบๆ สระน้ำ มีสะพานแดง ซึ่งแต่ละสะพานที่มีนิยามความหมายถึงอดีต ปัจจุบัน และอนาคต




แถวไหว้พระขอพรยาวไปจนถึงหน้าทางเข้า เท่าที่สังเกตุจะมีนักเรียนนักศึกษามากันเยอะ แบบเป็นรถบัสเหมามากันเลยก็มี เหมือนจะได้ยินว่าขึ้นชื่อเรื่องขอให้สอบผ่าน
โดยใช้ป้ายไม้ที่เขียนสิ่งที่ปรารถนาลงไปแล้วนำไปแขวน และอีกจุดหนึ่งก็คือรูปปั้นวัวทองที่คนแวะเวียน มาสัมผัส มาทัชกัน
ออกมาด้านนอกก็หิวพอดี ยิ่งร้านเยอะยิ่งโจทย์ยากเพราะเลือกนาน



ร้านที่ดูเหมือนจะมีส่วนประกอบของเมนไทโกะ ของขึ้นชื่อของที่นี่ รสชาติเหมือนข้าวต้มอาหารทะเลทั่วไป ไม่ได้แย่แต่ก็ไม่ถึงกับว้าว คิดว่าเอาไปทำเมนูอื่นอาจถูกปากเรามากกว่า
อุเมะกาเอะโมจิ อันนี้ดูมาหลายรีวิวไม่ลองคงไม่ได้ อากาศหนาวๆ ของหวานร้อนๆ ยังไงก็สามผ่าน


นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Nishitetsu Ogori เพื่อมารอรถบัสต่อไปยัง Tosu Premium Outlet รถจะมาจอดที่ตรงข้ามเอาท์เลท และสามารถเดินข้ามทางเชื่อมด้านบนไปอีกฝั่งได้เลย
หน้าหนาวท้องฟ้ามืดลงเร็วมาก เล็งแบรนด์ไหนไว้ควรบริหารเวลาและวิธีการเดินให้ดี ที่นี่เป็นเอาท์เล็ทที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคิวชู ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.premiumoutlets.co.jp/en/tosu/ เดินเพลินๆ ยังไงก็ไม่ต่ำกว่า 3 ชม. แน่นอน




ขากลับเรานั่งบัสไปลง Tosu Station เพื่อต่อรถไฟกลับไปยังที่พักแถวสถานี Hakata

Day 2
เริ่มต้นอีกวันในช่วงเช้าที่โมจิโกะ เรโทร โดยมาลงที่ Mojiko Station วันที่เราไปมี Flea market งานคราฟท์ งานแฮนด์เมด รวมถึงสตรีทฟู้ด เยอะแยะเต็มไปหมด
หากไม่ห้ามใจเอาไว้ให้ดี อาจมีซื้อน้ำหนักโหลดกระเป๋าขากลับเพิ่มแน่นอน


สะพาน Blue Wing Moji จะยกออกปิดเปิดเป็นเวลา เป็นอีกจุดเช็คอินหนึ่งของที่นี่ สีสันชวนให้นึกถึง Gundam เสียจริง
ขนมอะไรเอ่ยมีแต่แป้งกับน้ำตาลหาสารอาหารไม่เจอ แต่ก็ซื้อกินมันทุกครั้ง 555




มาเมืองท่าเรือ ก็ต้องมาแวะดูเรือเสียหน่อย วิวด้านหลังคือสะพาน Kanmon อีกจุดเช็คอินหนึ่งที่ครั้งนี้เราไม่ได้ไป (เพื่อหาเรื่องมาซ้ำคราวหน้า)
เดินมาสักพักก็จะเจอสถาปัตยกรรมทรงยุโรป ก็คืออาคารห้องสมุดเชื่อมสัมพันธ์ญี่ปุ่น และจีน สนใจลงเรือเที่ยวชมบริเวณรอบๆ อ่าวก็มีบริการนะ
ร้านอาหารและถนนคนเดินรอบๆ มีกลิ่นอายเมืองท่ายุโรปเหมาะมาเดินเล่นพักผ่อนชมวิวหรือใช้เวลาในวันหยุดกับครอบครัว
มาสคอตเกี่ยวกับของฝากขึ้นชื่อที่เป็นกล้วย.. รู้หรือไม่ว่าในอดีตบริเวณนี้เคยเป็นลานประมูลกล้วยด้วยนะเออ



เดินชมภูมิทัศน์ที่ถนนรอบนอกท่าเรือ หามุมถ่ายภาพสวยๆไว้อัพโซเชียล ตรงนี้นอกจากจะถ่ายภาพสวยแล้ว ยังชวนคนรักมาแข่งกันหาหัวใจที่ซ่อนอยู่บนกำแพงได้ด้วยนะ
ช่วงบ่าย เรามาลงที่สถานี Nishi Kokura เพื่อเดินมายังปราสาทโคคุระ (สามารถมาจากสถานี Kokura ได้เช่นกัน)


รูปปั้นมิยาโมโตะ มูซาชิ และ ซาซากิ โคจิโร่ คู่ปรับตลอดกาล ไม่ว่าจะเป็นในตำนาน หรืออนิเมะเวอร์ชั่นใดก็ตาม
เดินดูบ้านเมืองเรื่อยเปื่อยมาทางสะพาน Ogaibashi และเดินต่อไปยังสถานี Kokura พอได้เวลาก็ นั่งรถไฟมาลงสถานี Yahata เพื่อต่อฟรี Shuttle bus มายัง Mt.Sarakura เพื่อขึ้น Cable car


เราใช้เวลาเพื่อมาถึงที่นี่ช่วงพลบค่ำเพราะอยากจะมาดูวิวยามค่ำคืนที่สวยติดอันดับของประเทศญี่ปุ่นของที่นี่ สวยก็สวยหนาวก็หนาว มือชาหน้าสั่นไปหมด หากใครจะตั้งกล้องบันทึก time lapse ควรมีขาตั้งกล้องดีๆ เพราะลมแรงมาก ด้านบนมีห้องอาหาร และ coffee shop ไว้ให้บริการด้วยนะ
แล้ววันนี้ก็หมดไปอีกหนึ่งวัน

Day 3
เริ่มต้น Day3 ที่สถานีขนส่งรถบัสหน้าสถานี Hakata เดินออกมาขวามือ อยู่ใกล้ๆ เลย เดินขึ้นไปชั้นบนจะมีเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติ หรือหากไม่แน่ใจสามารถบอกปลายทาง Itoshima กับจนท.แถวนั้นได้ใจดีทุกคน

สวนสาธารณะ และจุดเช็คอินริมชายหาด ระหว่างทางที่เราจะไปดูหินคู่รัก วันที่เราไปอากาศค่อนข้างหนาวมาก จึงไม่ได้ลงไปเดินเล่น หากใครมีเวลาสามารถแวะเที่ยวกันได้
เป็นอีกที่ที่ landscape สวยมากๆ เหมาะมาเดินเล่นกับคู่รัก หรือถ่ายภาพวิวทะเลที่ขึ้นชื่อของ Itoshima “เมโอโตะอิวะ” หรือหินแต่งงาน ว่ากันว่าเป็นเทพเจ้าญี่ปุ่นผู้สร้างโลกสามีภรรยาที่ชื่อ อิซานางิ และอิซานา



ขึ้นรถบัสต่อไปยังสถานีรถไฟท้องถิ่น เพื่อไปลง Fujisaki Bus Terminal ที่สถานี Fujisaki
Fukuoka Tower เป็นหอคอยชายทะเลที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น สามารถขึ้นไปชมวิว และทำกิจกรรมสนุกๆ อีกมากมายด้านบน


Marizon แหล่งช็อปปิ้ง ที่แยกเป็นเกาะเชื่อมกับชายหาด รูปแบบอาคารสไตล์ยุโรปตะวันออก เดินเลาะมาด้านขวามือเลียบหาดเพื่อไปยังฟุกุโอกะโดม
ที่นี่เป็นสถานที่จัดแข่งกีฬา คอนเสิร์ต และอีเวนท์ระดับประเทศ




รูปหล่อมือของเหล่าคนดังหลากหลายวงการ วางประดับอยู่บริเวณรอบนอกของฮอลล์ คุณสามารถเลือกจับมือกับศิลปินที่คุณชื่นชอบ เพื่อสร้างพลังบวก หรือเพิ่มแรงบันดาลใจได้ตามอัธยาศัย

Motsunabe ร้าน Oyama ตั้งอยู่บนห้าง KITTE ติดกับสถานี Hakata ของดีประจำจังหวัดฟุกุโอกะ หม้อไฟไส้วัว มันเน้นๆ คอลลาเจนล้วนๆ ซุปเข้มข้น ราคาแอบแรง แต่ถ้าคิดว่ามาถึงถิ่นแล้วก็ควรโดน


และที่ห้ามพลาด คุณสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศการออกบูธ และแสงไฟฉลองคริสมาสต์ได้ที่สถานี Hakata ทุกปลายปีตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป