

ภาคอีสานไม่ค่อยเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากนัก ในการมาเที่ยวประเทศไทย นอกจากผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางที่แตกต่างออกไป หรือผู้ที่ตั้งใจมาพักระยะยาวในชนบท


แต่ในอนาคตการเดินทางไปทั่วประเทศไทยจะสะดวกสบายมากขึ้นนอกเหนือจากเครื่องบิน การเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงจะเข้ามาอำนวยความสะดวกและเพิ่มประสบการณ์เดินทางที่น่าสนใจ ครั้งนี้เรามาเยือนจังหวัดขอนแก่นในวันหยุดสุดสัปดาห์เพื่อเพิ่มประสบการณ์การท่องเที่ยวในสถานที่ใหม่ๆ
เราเดินทางด้วยรถไฟตู้นอนแบบปรับอากาศ เมื่อถึงเวลาเจ้าหน้าที่ก็จะมาปรับเปลี่ยนที่นั่งเป็นที่นอนด้วยความรวดเร็วปานสายฟ้า



ข้อดีของชั้นนอนปรับอากาศคือ จะมีความเป็นส่วนตัวในระดับหนึ่ง และเงียบสงบกว่า เนื่องจากไม่ค่อยได้ยินเสียงด้านนอก และไม่มีคนเดินขึ้นมาขายของให้ต้องกังวลสัมภาระของเรา


สถานีรถไฟขอนแก่นแห่งใหม่เปิดใช้บริการอย่างเต็มรูปแบบเมื่อปี 2020 เพื่อรองรับระบบรถไฟรางคู่ในอนาคต


มื้อเช้าระหว่างรอร้านรถเช่าเปิดให้บริการที่ร้านสามชัยกาแฟ บริเวณใกล้สถานีรถไฟ

ขับรถมาจากเมืองประมาณ 1 ชั่วโมง มาถึงหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำพอง



The atmosphere that can see the view of ‘Ubonratana Dam’.








ในภาพมีตั๊กแตนกี่ตัวกันนะ?

หินที่มีรูปทรงประหลาดที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และถูกตั้งชื่อตามสัตว์ต่างๆ ส่วนหินช้างสี ความหมายตรงตัวคือว่าในสมัยก่อนจะมีฝูงช้างป่าจะเอาตัวมาถูไถกับหินใหญ่จนเกิดเป็นลวดลายต่างๆ

ร้านอาหารเวียดนามพบเห็นได้มากในแถบภาคอีสานของประเทศไทย มื้อเที่ยงเราแวะกินที่ DN อัมพร แหนมเนือง (กูรูเคยบอกว่าให้ออกเสียง “แนมเหนือง”)

เช็คอินที่โรงแรม Sleep Cube บริเวณมหาวิทยาลัยขอนแก่นฝั่งกังสดาล ซึ่งเป็นที่พักราคาประหยัด คุณภาพสมราคา หลับสบายไม่หนวกหูเสียงดัง

พื้นที่ส่วนกลางสำหรับนั่งพูดคุยกับเพื่อนร่วมทริป ซื้อของมานั่งกินกัน หรือจะเลือกกินก๋วยเตี๋ยวด้านหน้าที่พักที่เปิดจนถึงกลางคืนก็ได้


ตอนเย็นเราออกไปตลาดนัดด้านหน้าของมหาวิทยาลัย ของกิน และเสื้อผ้าเยอะมากๆ แต่โชคไม่ค่อยดีที่เหมือนฝนกำลังจะตกลงมาจึงทำให้ต้องซอยเท้าแบบรีบๆ ไม่ค่อยได้เลือกอะไรเท่าไหร่



ในวันรุ่งขึ้นเราตั้งใจจะออกไปสักการะวัดที่มีชื่อเสียงบริเวณรอบๆ จังหวัดขอนแก่น โดยวัดแรกที่เราเดินทางมาถึงคือ วัดกู่ประภาชัย ประกอบด้วยโบราณสถานที่เป็นอโรคยาศาล หรือสถานพยาบาลทั้งทางร่างกาย และจิตใจ (สมัยก่อนก็มีเรื่องซึมเศร้านะเออ) สร้างขึ้นตามพระราชดำริของ พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เป็นสภาปัตยกรรมของขอม ก่อสร้างด้วยศิลาแลงและหินทราย มีพระพุทธรูปประดิษฐานไว้

สำหรับคนที่เป็นแฟนพันธุ์แท้โบราณสถานนั้น หากมองแผนผังคร่าวๆ ก็จะทราบได้ทันที ว่าที่นี่สร้างเพื่อเป็นอโรคยาศาล


บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์สำหรับเพื่อใช้ในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ

หินศักดิ์สิทธิ์ก้อนใหญ่ ถูกวางไว้บนแท่นที่ทำขึ้นใหม่เพื่อให้ประชาชนทั่วไปมาสักการะบูชา ตามเรื่องเล่าของท้องถิ่นว่าเคยขึ้นไปอยู่บนยอดต้นไม้ จนมีชาวต่างชาติเคยมาขอซื้อถึงหลักล้านบาท มาแล้ว

เดินทางต่อมายัง วัดพระธาตุขามแก่น ซึ่งสร้างขึ้นต้นพุทธศตวรรษที่ 25 โดยเจ้าเมืองโมรีย์ ในอาณาเขตกัมพูชา โดยท่านมีความประสงค์จะนำพระอังคารของพระพุทธเจ้าที่ได้ครอบครองไว้มาบรรจุที่องค์พระธาตุพนมโดยผ่านขบวนอัญเชิญเป็นพิธี และได้แวะพักที่ซากต้นมะขามใหญ่ที่ตายแล้วเหลือแต่แก่น พอรุ่งเช้าเมื่อไปถึงองค์พระธาตุก็ดันสร้างเสร็จแล้ว (อ้าว.. แล้วทำไมไม่รอว้าา) จึงต้องนำพระอังคารกลับมาโดยหวังว่าจะเอาไว้บูชาที่เมือง เมื่อผ่านซากต้นมะขามที่พักแรมเมื่อวาน กลับพบว่ากลายเป็นต้นที่เขียวชอุ่มแข็งแรงสร้างความประหลายใจและศรัทธา จึงได้สร้างเจดีย์ครอบพร้อมบรรจุพระอังคารเอาไว้ ณ ที่แห่งนี้ และตั้งชื่อว่า “พระธาตุขามแก่น”


แวะกินอาหารเที่ยงที่ร้าน วีไอพี ส้มตำ ..มาถิ่นอีสานแล้วยังไงก็ต้องกินอาหารพื้นเมือง คอหมูย่างต้องมา ส้มตำปลาร้าต้องโดน

ช่วงบ่ายแวะไปดูชุมชนที่ยังคงอนุรักษ์วิถีการดำเนินชีวิตแบบท้องถิ่น “บ้านนาคำไฮ” โดยจะมีถนนคนเดิน และตลาดนัด มีสินค้ามากมายทั้งอาหาร และผัก ผลไม้ท้องถิ่น


ในส่วนของคนเมือง ตลาดนัดต้นตาล คือที่ๆ คนนิยมมาจับจ่ายใช้สอย และนัดกินข้าวกันในยามเย็นไปจนถึงค่ำๆ บรรยากาศดี ดนตรีสด ร้านอาหารมีให้เลือกรับประทานกันมากมาย และยังมีพื้นที่ให้กับศิลปินได้มาแสดงออกอีกด้วย

good for shopping or dining at night .There is both live music and sports including an art exhibition area.



ขากลับ เราจองรถไฟตู้นอนแบบพิเศษเอาไว้ โดยเหมาเป็นห้องส่วนตัว

มีจอมอนิเตอร์ สำหรับบอกข้อมูลการเดินทางทั้งสองที่ มีตู้เก็บของ และอ่างล้างหน้าภายในห้องที่ปิดล็อคประตูได้

โซนห้องน้ำด้านนอกถูกแยกออกไป โดยมีห้องอาบน้ำที่มีสบู่ แชมพู แบบกดให้ใช้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการไปทำธุระต่อตอนเช้าได้เลย

จอมอนิเตอร์แจ้งบอกพิกัด และข้อมูลเวลา

ถึงสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) แล้ว
ถ้าเพื่อนๆ มีเวลามากพอ การเดินทางด้วยรถไฟก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่ดี นอนสบาย แถมยังประหยัดค่าโรงแรมได้ 1 คืนด้วยนะ
การเดินทางทริปนี้มี Vlog ที่อยู่ใน Youtube ช่อง along footpath ยังไงฝากเป็นกำลังใจกดติดตาม และกดไลค์ กดแชร์ด้วยนะครับ
จากกรุงเทพฯ – ขอนแก่น | เครื่องบิน : สนามบินดอนเมือง / สุวรรณภูมิ |
รถไฟ : สถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) | |
รถบัส : สถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต (จตุจักร) | |
การเดินทางในขอนแก่น | |
ขนส่งมวลชนอื่นๆ (เส้นทางเดินรถ) | รถตู้ / รถสองแถว : more info |
เช่ารถยนต์ส่วนตัว (แนะนำ) | *เช่าจากสนามบิน หรือบริษัทใหญ่ๆ จะเกิดปัญหาน้อยที่สุด |
ตำแหน่งสถานที่จาก Google
สามชัย กาแฟ : map
อุทยานแห่งชาติน้ำพอง (หินช้างสี) : map
โรงแรม Sleep Cube : map
ตลาดนัดมหาวิทยาลัยขอนแก่น : (Fri-Sun. 17.00 – 22.00 pm.) map
วัดกู่ประภาชัย : map
วัดเจติภูมิ (พระธาตุขามแก่น) : map
V.I.P. ส้มตำ : map
บ้านนาคำไฮ : (Everyday 15.00 – 19.00 pm.) map
ตลาดนัดต้นตาล : (Everyday 16.00 – 23.00 pm.) map
บึงแก่นนคร : map